วิเคราะห์เจาะลึกหนัง “สไปเดอร์แมน” ภาค 3 จากแบบอย่างแรกที่พึ่งจะเผยออกมาให้ชมกัน พร้อมข้อสมมติฐานว่านอกจากตัวร้ายจากภาคก่อนแล้ว “ไอ้แมงมุม” จากจักรวาลอื่นก็อาจข้ามมิติมา “ครอสโอเวอร์” กันก็เป็นได้

ติดเทรนด์ได้รับความนิยมไปทั่วทั้งโลกทันทีที่ปล่อยตัวอย่างแรกออกมาให้ชมกัน สำหรับ Spider-Man: No Way Home หนังลำพังภาค 3 ของ ‘ไอ้แมงมุม’ เวอร์ชั่น ‘ทอม ฮอลแลนด์’ ที่ได้รับความรักความเอ็นดูจากคอหนังสูงที่สุดคนหนึ่งในจักรวาลซูเปอร์ฮีโร่

Spider-Man: No Way Home (2021) เป็นหนังภาคต่อจาก Spider-Man: Homecoming (2017) และ Spider-Man: Far From Home (2019) แต่ว่าเนื้อหาของเรื่องถูกเก็บเป็นความลับมาตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา จนทำให้แฟนๆไอ้แมงมุม รวมถึงคอหนังซูเปอร์ฮีโร่จักรวาลมาร์เวล ตั้งหน้าตั้งตาคอยดูตัวอย่างแรกพื้นที่ ‘โซนี่ พิคพบร์ส’ ปลดปล่อยออกมาให้ชมกันอย่างใจจดใจจ่อ
แล้วเรื่องย่อของ Spider-Man: No Way Home ที่เพียงพอจะสรุปได้จากแบบอย่างที่ปลดปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2564 มีอยู่ว่า ‘ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์’ ถูก ‘มิสเทริโอ’ (Mysterio) เปิดโปงว่าเป็น ‘สไปเดอร์แมน’ จนดำรงชีวิตอยู่ในสังคมอย่างทุกข์ยาก เขาก็เลยไปขอความช่วยเหลือจาก ‘ดร.สเตรนจ์’ (Stephen Strange) ให้ช่วยใช้เวทมนต์เสกให้ไม่มีใครนึกออกว่าคนที่สวมชุดสไปเดอร์แมนออกปฏิบัติงานไปทั่วทั้งเมืองคือคนใดกันแน่
แม้ ‘หว่อง’ จะเตือนแล้วว่าอย่าใช้เวทมนต์ดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วเพราะเหตุว่า ‘มันอันตรายเกินไป’ แต่ว่า ‘ดร. สเตรนจ์’ ก็ยังประพฤติตามคำขอของ ‘ปีเตอร์’ จนจักรวาลเกิดความเปลี่ยนแปลง และเกิดเหตุรุนแรงอย่างไม่ได้นึกฝันตามมา

spide2

spide3

‘ดร. สเตรนจ์’ ผู้ที่ทำ ‘มัลติเวิร์ส’ ผันผวน
แล้วการใช้เวทมนต์ของ ดร. สเตรนจ์ นำมาซึ่งการก่อให้เกิดผลอะไรตามมาบ้าง?

คำตอบคือ ทำให้คนร้ายตัวเอ้อปิ้ง กรีน ก็อบลิน (Green Goblin) และ ดร. อ็อกโตปุส (Dr. Octopus) ซึ่งอยู่อีกจักรวาลหนึ่ง (บอกให้เข้าใจง่ายๆก็คือ ตัวร้ายในหนังสไปเดอร์แมนเวอร์ชั่นที่แสดงโดย ‘โทบี้ แมคแกว่งไกวร์’ และสไปเดอร์แมนเวอร์ชั่นที่แสดงโดย ‘แอนดรูว์ การ์ฟิลด์’) สามารถข้ามมิติเข้ามาสร้างความอลหม่านในจักรวาลของ ‘สไปเดอร์แมน-ทอม ฮอลแลนด์’ ได้นั่นเอง
Spider-Man: No Way Home ดูแลโดย ‘จอน วัตส์’ (Jon Watts) คนที่ดูแล Spider-Man: Homecoming และ Spider-Man: Far From Home หนัง 2 ภาคก่อนเอาไว้

spide4

ส่วนเหล่าดาราก็ยังเป็นหน้าเดิมทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็น ทอม ฮอลแลนด์ (สไปเดอร์แมน, ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์) เซนดายา (เอ็มเจ-แฟนของปีเตอร์) เจค็อบ บาตาลอน (เน็ด ลีดส์-เพื่อนสนิทของปีเตอร์) มาริสา โทเมอิ (ป้าเมย์) เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบทช์ (ดร. สเตรนจ์) เบเนดิกต์ หว่อง (หว่อง) เจมี่ ฟ็อกซ์ (อิเล็กโตร) และอัลเฟรด โมลิท้องนา (Dr. Octopus)
‘สไปเดอร์-โทบี้’ ข้ามจักรวาลมาครอสโอเวอร์?
นอกจากเหล่าร้ายตัวเอ้แล้ว แฟนๆยังคาดคะเนกันอีกว่าสไปเดอร์แมนจากจักรวาลอื่นก็อาจเดินทางข้ามมิติเวลาที่ผันผวนมาด้วยเช่นเดียวกัน โดยข้อสมมติฐานนี้มาจากการที่ ‘อัลเฟรด โมลิท้องนา’ กลับมาสวมบท Dr. Octopus ที่เขาเคยเล่นเอาไว้ในภาพยนตร์ Spider-Man 2 (2004) เวอร์ชั่นที่ โทบี้ แม็คแกว่งไกวร์ เล่นเป็นสไปเดอร์แมนนั่นเอง

ทั้งนี้ แฟนๆมิได้ใจไปเองเพียงเพราะเหตุว่ามองเห็น Dr. Octopus มาปรากฎตัวในหนังเท่านั้น แต่ว่าข้อสมมติฐานนี้ยังมาจากบทสัมภาษณ์ของโมลินากับทาง Variety เมื่อต้นปีว่า บทของเขาใน Spider-Man: No Way Home จะต่อจากเรื่องในหนัง Spider-Man 2 ขณะที่ Dr. Octopus ยอมสละตัวเอง จมลงไปในแม่น้ำพร้อมเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์เพื่อป้องกันเมืองเอาไว้

ซึ่งการกลับมาของ Dr. Octopus ในครั้งนี้อาจเป็นการบอกใบ้เป็นนัยๆ(หรือไม่) ว่า ‘สไปเดอร์-โทบี้’ เองก็บางครั้งก็อาจจะมาปรากฎตัวใน ‘Spider-Man: No Way Home’ ก็เป็นได้
‘อิเล็กโตร’ อาจข้ามมิติมาเช่นเดียวกัน
นอกจาก Dr. Octopus แล้ว ‘อิเล็กโตร’ คู่แข่งขันคนสำคัญอีกคนของสไปเดอร์แมนก็อาจกลับมาด้วยเช่นเดียวกัน

spide5

spide6
ข้อสมมติฐานนี้มาจากการที่ ‘เจมี่ ฟ็อกซ์’ เผลอหลุดสปอยล์เอาไว้ในอินสตราเอ็งรมของเขา (ที่ในขณะนี้ลบทิ้งไปแล้ว) ว่าจะกลับมาสวมบท ‘อิเล็กโตร’ ที่เคยเล่นเอาไว้ใน The Amazing Spider-Man 2 (2014) เวอร์ชั่นที่ แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ สวมบทสไปเดอร์แมน อีกรอบ

ภายหลังที่มองเห็นเหล่าคนร้ายจากจักรวาลต่างๆกลับมาปรากฎตัวใน Spider-Man: No Way Home กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาเช่นนี้ แฟนๆก็เลยอดรนทนไม่ไหว เรียกร้องไปทาง ‘โซนี่ พิคพบร์ส’ เพราะเหตุใดไม่นำ ‘สไปเดอร์-โทบี้’ และ ‘สไปเดอร์-แอนดรูว์’ ข้ามจักรวาลมาครอสโอเวอร์ในหนังของ ‘สไปเดอร์-ทอม’ เพื่อเป็นโบนัสให้กับแฟนๆไปเลย

อย่างไรก็ตาม ทั้งผองนี้เป็นเพียงการคาดคะเนของแฟนๆที่ยังไม่มีการตอบรับจากทางผู้สร้างแต่อย่างใด อาจจะจะต้องรอดู trailer ตัวต่อไปว่าจะเผยรายละเอียดอะไรเพิ่มอีกไหม ซึ่งถ้าเกิดไม่มีก็อาจจะจะต้องอดใจรอดูในหนังซึ่งทางโซนี พิคพบร์สวางโปรแกรมฉาย (ในสหรัฐฯ) เอาไว้วันที่ 17 ธันวาคม ถ้าเกิดไม่มีอะไร (โดยเฉพาะวัววิด-19) มาทำให้เปลี่ยน

spide7

ส่วนคนใดกันแน่ที่ดูตัวอย่าง Spider-Man: No Way Home แล้วต้องการย้อนกลับไปมองภาคเก่าๆเพื่อทบทวนเรื่องราวที่หลงลืมไปแล้ว หรือจะจัดแจงก่อนดูหนังที่จะเข้าฉายเดือนธันวาคมนี้ ก็สามารถหาดูได้ทาง Netflix ซึ่งมีให้มองเกือบจะครบเป็นสไปเดอร์แมนทั้ง 3 ภาคของ โทบี้ แมคแกว่งไกวร์ (Spider-Man, Spider-Man 2, Spider-Man 3) และสไปเดอร์แมน 2 ภาคของ แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ (The Amazing Spider-Man, The Amazing Spider-Man 2)

ส่วนหนังสไปเดอร์แมนของ ทอม ฮอลแลนด์ นั้น ทาง Netflix มีให้มองเพียงแค่ภาคแรก Spider Man: Homecoming เท่านั้น ส่วนภาค 2 Spider Man: Far From Home สามารถรับชมได้ทาง HBO GO

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *