เป็นอีกเกมที่ประเทศฝรั่งเศสกลับจากที่ตามหลังแล้วกลับมาแซงชนะ ผงาดครองแชมป์ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ได้เสร็จ
LIVE UPDATE ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก : ประเทศสเปน – ประเทศฝรั่งเศส
ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2020-2021 รอบชิงชนะเลิศ ที่สนามซาน ซีโร ในเมืองไม่ลาน ประเทศอิตาลี เป็นการเจอกันระหว่าง ประเทศสเปน ดวลกับ ประเทศฝรั่งเศส
หลุยส์ เอ็นริเก้ กนซือของประเทศสเปน เลือกจัดกองทัพมาในระบบ 4-3-3 ด้วยการใช้สามประสานแนวรุกเป็น เฟร์ราน โคนร์เรส, ขว้างโบล ซาราเบีย รวมทั้ง ไม่เกล โอยาร์ซาบัล
ด้านประเทศฝรั่งเศสของ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ วางหมากมาในแผน 3-4-1-2 โดยใช้ อองตวน กรีซมันน์ ทำเกมรุกร่วมกับคู่แผงหน้าอย่าง ติดอยู่ขอบ เบนเซมา รวมทั้ง คีลิจนถึง เอ็มบัปเป้
เกมในตอน 45 นาทีแรก ทั้งสองกลุ่มยังแทบจะไม่มีโอกาสลุ้นทำประตูแบบกระจ่างให้เห็นกันเลย โดยที่ดินฝั่งของประเทศฝรั่งเศสนั้นยังจำต้องเสียแผงหลังตัวเก่งอย่าง ราฟาแอล วาราน ซึ่งเจ็บกล้ามเนื้อขา กระทั่งจำต้องแปลงเอา ดาโยต์ อูขว้างเมกาโน ลงมาแทน ในนาทีที่ 43 อีกด้วย ก่อนจะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ที่ยังเท่ากันอยู่ 0-0
ครึ่งหลังแปลงเป็นประเทศสเปนมาได้ประตูขึ้นนำ ในนาทีที่ 64 จากจังหวะที่ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ วางบอลยาวให้ ไม่เกล โอยาร์ซาบัล แทรกเอาชนะตัวตามติดอย่าง ดาโยต์ อูขว้างเมกาโน ก่อนจะยิงด้วยซ้ายยัดเข้าเสาไกลอย่างเด็ดขาด ส่งให้กองทัพวัวกระทิงดุออกนำ 1-0
แต่ว่าต่อมาแค่เพียงนาทีที่ 66 ประเทศฝรั่งเศสก็มาตามตีเสมอได้แบบฉับไว จากจังหวะที่ คีลิจนถึง เอ็มบัปเป้ ไหลบอลให้ ติดอยู่ขอบ เบนเซมา ได้ปั่นโค้งด้วยขวาโค้งแทงสามเหลี่ยมอย่างสวยงาม ทำให้สกอร์ขยับมาเท่ากันที่ 1-1
ช่วงท้ายเกมนาทีที่ 80 ประเทศฝรั่งเศสมาได้ประตูกลับขึ้นนำ จากจังหวะที่ เตโอ แอร์กน็องเดซ ส่งบอลแฉลบการพุ่งสกัดของ เอริค การ์เซีย เลยไปถึง คีลิจนถึง เอ็มบัปเป้ ได้หลุดยิงด้วยซ้ายตุงตาข่าย ซึ่งผู้ตัดสินเช็ค VAR แล้วมองว่าไม่เป็นการล้ำหน้าอะไร ช่วยให้กองทัพตราไก่แซงนำ 2-1
หลังจากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มอีก ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นประเทศฝรั่งเศสชนะไป 2-1 ผงาดครองแชมป์ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีกได้เสร็จ
รายนามนักเตะทั้งสองกลุ่ม
ประเทศสเปน (4-3-3) : อูไน ซิมอน; เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, เอริค การ์เซีย, อายเมอริค ลาปอร์กต์, มาร์กอส อลอนโซ; กาบี้ (โกเก้ น.75), เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, โรดรี้ (ขว้างโบล ฟอร์ทุ่งนาลส์ น.84); เฟร์ราน โคนร์เรส (ไม่เกล เมริโน น.84), ขว้างโบล ซาราเบีย (เยเรมี ปิโน น.61), ไม่เกล โอยาร์ซาบัล
สำรองมิได้ใช้ : ดาบิด เด เคอา, เปา โคนร์เรส, อินญิหรูหรา มาร์ติเนซ, ไบรอัน กิล, แซร์จักจี้ โรกางร์โต้, โรเบิร์ต ซานเชซ, เซร์คิโอ เรกีลอน, เปโดร ปอร์โร
ใบเหลือง – อายเมอริค ลาปอร์กต์ น.86
ประเทศฝรั่งเศส (3-4-1-2) : อูหรูหรา โยริส; ฌูลส์ คุนเด้, ราฟาแอล วาราน (ดาโยต์ อูขว้างเมกาโน น.43), เปรสแนล คิมเปมเบ้; แบ็งฌาแม็ง ขว้างวาร์ (เลโอ มองบัวส์ น.80), ปอล ป็อกบา, อูเรเลียง ชูอาเมนี, เตโอ แอร์กน็องเดซ; อองตวน กรีซมันน์ (ฌอร์ดาน แวร์ตูร์ น.90+2); ติดอยู่ขอบ เบนเซมา, คีลิจนถึง เอ็มบัปเป้
สำรองมิได้ใช้ : อ็องโตนี มาร์กซิยาล, มุสซา ดิยาบี้, มัตเตโอ เกนมองซี, เบอนัวต์ กอสติล, วิสซาม เบน เยดแดร์, ลูกัส แอร์กน็องเดซ, ไมค์ เมญอง
ใบเหลือง – ปอล ป็อกบา น.46, ฌูลส์ คุนเด้ น.55, คีลิจนถึง เอ็มบัปเป้ น.89